การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)

การฟอกสีฟันเป็นกระบวนการที่ช่วยทำให้ฟันขาวขึ้นโดยการใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติในการทำลายคราบสีบนผิวฟันหรือในเนื้อฟัน ซึ่งคราบเหล่านี้เกิดจากอาหาร, เครื่องดื่ม, การสูบบุหรี่ หรืออายุที่เพิ่มขึ้น การฟอกสีฟันมีหลายวิธีและใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม

ประเภทของการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

  1. การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ในคลินิก (In-Office Whitening)
  2. การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน (At-Home Whitening)

1. การฟอกสีฟันในคลินิก (In-Office Whitening)

เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด เพราะทำโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ขั้นตอนมีดังนี้:

ขั้นตอนการฟอกสีฟันในคลินิก

  1. การตรวจสอบและเตรียมความพร้อม
    • ทันตแพทย์จะทำการตรวจฟันและเหงือกเพื่อตรวจสอบว่าฟันและเนื้อเยื่อในช่องปากมีสุขภาพดีพอสำหรับการฟอกสีฟันหรือไม่
    • หากมีคราบหินปูนหรือฟันผุ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำความสะอาดฟันหรือรักษาฟันผุก่อนการฟอกสีฟัน
  2. การป้องกันเนื้อเยื่ออ่อน
    • ทันตแพทย์จะใช้วัสดุป้องกันเนื้อเยื่ออ่อน เช่น เหงือกและริมฝีปาก โดยใช้เจลป้องกันหรืออุปกรณ์ป้องกันพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้สารฟอกสีฟันสัมผัสกับเนื้อเยื่อและก่อให้เกิดการระคายเคือง
  3. การทาเจลฟอกสีฟัน
    • สารฟอกสีฟันที่ใช้ในคลินิกมักจะมีสารออกฤทธิ์คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) โดยสารเหล่านี้จะถูกทาให้ทั่วบนผิวฟัน
    • บางวิธีจะใช้ เลเซอร์ หรือ แสง LED เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของสารฟอกสีให้เกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น
  4. การทำซ้ำหรือปล่อยให้สารฟอกสีทำงาน
    • ทันตแพทย์จะทิ้งเจลฟอกสีฟันไว้อย่างน้อย 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของสารเคมีและวิธีการที่ใช้
    • ในบางกรณีอาจต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้งในระหว่างการนัดหมายเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
  5. การทำความสะอาดหลังการฟอกสี
    • หลังจากฟอกเสร็จ ทันตแพทย์จะล้างเจลออกจากฟัน และประเมินผลลัพธ์ว่าฟันขาวขึ้นมากน้อยเพียงใด หากต้องการผลลัพธ์ที่ขาวขึ้น อาจต้องนัดทำเพิ่มเติม

ข้อดีของการฟอกสีฟันในคลินิก

  • เห็นผลเร็ว สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ภายในครั้งเดียว
  • ควบคุมกระบวนการโดยทันตแพทย์ จึงปลอดภัยและมีความเสี่ยงน้อยต่อการระคายเคืองหรืออาการเจ็บปวด

2. การฟอกสีฟันที่บ้าน (At-Home Whitening)

สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยใช้ชุดฟอกสีฟันที่จัดทำโดยทันตแพทย์หรือหาซื้อจากร้านทั่วไป ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้านมีดังนี้:

การฟอกสีฟันที่บ้านโดยทันตแพทย์

  1. การทำถาดฟอกสีฟัน
    • ทันตแพทย์จะพิมพ์แบบฟันของผู้ป่วยเพื่อสร้างถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล ซึ่งจะทำให้ถาดฟอกสีฟันพอดีกับฟันของผู้ใช้
    • ถาดที่พอดีจะช่วยป้องกันการไหลออกของเจลฟอกสีไปยังเหงือก
  2. การใช้เจลฟอกสีฟัน
    • ทันตแพทย์จะให้เจลฟอกสีฟันที่มีสารเคมีเข้มข้นน้อยกว่าแบบที่ใช้ในคลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยใช้ที่บ้าน
    • ผู้ใช้จะทาเจลลงในถาดฟอกสีและสวมใส่เป็นเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน หรือใส่ตอนกลางคืน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์
  3. การใช้งานต่อเนื่อง
    • ระยะเวลาในการฟอกฟันที่บ้านอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ

ข้อดีของการฟอกสีฟันที่บ้าน

  • ราคาถูกกว่าและสามารถทำได้เองที่บ้าน
  • การฟอกสีแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ลดโอกาสเกิดอาการเสียวฟัน

ข้อเสีย

  • ใช้เวลานานกว่าการฟอกสีในคลินิก
  • หากไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาฟันและเหงือกได้

การดูแลหลังฟอกสีฟัน

หลังการฟอกสีฟัน ควรดูแลฟันอย่างดีเพื่อรักษาความขาวและลดโอกาสที่ฟันจะกลับมามีคราบอีก:

  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง และบุหรี่ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังฟอกสีฟัน
  • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ
  • ทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการขจัดคราบ เช่น แอปเปิล และแครอท

การฟอกสีฟันไม่ใช่กระบวนการถาวร ความขาวอาจจางลงได้ตามพฤติกรรมการกินและการดูแลฟัน

Scroll to Top